HPE เผยผลสำรวจเกี่ยวกับประเด็น AI สำหรับเครือข่าย

ความสำคัญของเครือข่ายเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เครือข่ายมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และเมื่อเร็วๆ นี้ยังมีบทบาทสำคัญในการทำงานแบบไฮบริด กลายเป็นระบบประสาทส่วนกลางขององค์กรสมัยใหม่ และเครือข่ายกำลังจะก้าวเข้าสู่บทบาทสำคัญถัดไป ก็คือ “ผู้สนับสนุนปัญญาประดิษฐ์ (AI)”

AI คือแนวรบใหม่ของข้อมูล และหน้าที่ของเครือข่ายคือการนำข้อมูลไปยังสถานที่ที่ถูกต้อง การเก็บรวบรวม รักษาความปลอดภัย การขนส่ง และส่งมอบข้อมูลไปยังทุกที่ที่ต้องการ แต่ด้วยปัญญาประดิษฐ์ที่กำลังจะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ข้อมูลมากที่สุดและภาระงานด้านการประมวลผลที่หนักหน่วงที่สุดในยุคของเรา เครือข่ายองค์กรในปัจจุบันพร้อมรับมือกับความต้องการนี้หรือไม่?

คำตอบคือยังไม่ใช่ อย่างน้อยก็ตามผลสำรวจของ Sapio Research ในเดือนมกราคม 2024 ซึ่งได้รับการการสนับสนุนโดย Hewlett Packard Enterprise

แม้ว่าผู้ตัดสินใจด้านไอทีกว่า 2,000 รายที่เราสำรวจคิดว่าโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายของตนพร้อมรองรับการรับส่งข้อมูลของปัญญาประดิษฐ์ถึง 93% แต่เมื่อเราเจาะลึกมากขึ้น พบว่าน้อยกว่าครึ่งหนึ่งที่เข้าใจความต้องการที่แตกต่างกันของการสร้างเครือข่ายตลอดวงจรชีวิตของปัญญาประดิษฐ์อย่างครบถ้วน ดังแสดงในรูปที่ 1 ซึ่งอาจนำไปสู่การจัดสรรทรัพยากรที่ไม่เพียงพอ

ผู้ตัดสินใจด้านไอทีกำลังลงทุนในเครือข่ายอย่างจริงจังในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามด้านปัญญาประดิษฐ์ อย่างไรก็ตาม เครือข่ายอยู่ในอันดับที่ห้าในรายการพื้นที่การลงทุนที่มีลำดับความสำคัญ รองจากการจัดการข้อมูล ความปลอดภัย ซอฟต์แวร์ และการป้องกันข้อมูล ด้วยการประเมินความพร้อมของเครือข่ายสูงเกินไป ผู้นำด้านไอทีอาจยังไม่ได้ให้ความสำคัญหรือการลงทุนกับเครือข่ายอย่างเพียงพอ

ทำความเข้าใจบทบาทของเครือข่ายในปัญญาประดิษฐ์

วงจรชีวิตของ AI มีหลายขั้นตอน ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลเริ่มต้นจนถึงการประเมินและการฝึกอบรมแบบจำลอง เครือข่ายมีบทบาทในแต่ละขั้นตอนและจำเป็นต้องได้รับการจัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสมเพื่อ ทำหน้าที่เป็นทางเข้าสำหรับการสร้างคลังข้อมูลม สนับสนุนการเทรนและปรับแต่งแบบจำลอง, และ การปกป้องปัญญาประดิษฐ์ในตัวมันเอง เป็นตน

และเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเชื่อมต่อประสิทธิภาพสูง ยืดหยุ่น และปลอดภัยตามความต้องการของปัญญาประดิษฐ์ องค์กรจำเป็นต้องพิจารณาเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับสามข้อกำหนดสำคัญดังนี้

โครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุม: เพื่อตอบสนองการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ที่หลากหลาย องค์กรจำเป็นต้องใช้ตัวเลือกการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมที่สุด ไม่เพียงแค่แบบมีสาย ไวไฟ โดยเน้นที่ IoT และ WAN แต่ยังรวมถึง 5G ส่วนตัวด้วย และสามารถรวบรวมข้อมูลทั้งหมดได้ไม่ว่าจะสร้างขึ้นที่ใด

การมองเห็นและการควบคุมแบบรวมศูนย์: การใช้ตัวเลือกการเชื่อมต่อที่หลากหลายอาจนำไปสู่โครงสร้างพื้นฐานแบบไซโลได้ง่าย องค์กรต้องการโครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมต่อแบบเดียวจากขอบถึงคลาวด์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้แนวโนบายความปลอดภัยที่สอดคล้องกัน จัดการแบบรวมศูนย์ และเข้าใจสถานะของเครือข่ายจากจุดเดียว

ความปลอดภัย: การปกป้องข้อมูล แอปพลิเคชัน และโครงสร้างพื้นฐานจากผู้ไม่หวังดี และการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ต้องการเครือข่ายที่มีความปลอดภัยในตัว โดยใช้หลักการ Zero Trust และ SASE เป็นต้น

เรื่องของ AI กับเครือข่าย

อย่างที่คุณเห็น แอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์สมัยใหม่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายที่มีแบนด์วิดธ์สูง ลาเทนซีต่ำ มีความปลอดภัย และสามารถปรับขนาดได้ และเครือข่ายเหล่านี้จะต้องทำงานตลอดวงจรชีวิตของปัญญาประดิษฐ์ ตั้งแต่การเก็บภาพและการรวมข้อมูลไปจนถึงการฝึกอบรมแบบจำลองประสิทธิภาพสูงและการปรับใช้จากเอ็ดจ์ไปยังคลาวด์

ในทำนองเดียวกัน เครือข่ายสมัยใหม่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากปัญญาประดิษฐ์ สามารถกล่าวได้ว่า ทั้งสองอย่างนี้มีอนาคตที่สำคัญร่วมกัน โดยที่อย่างหนึ่งไม่สามารถทำงานดีได้เลยหากปราศจากอีกอย่างหนึ่ง

ที่มา : https://community.hpe.com/t5/networking/a-network-for-ai-and-ai-for-your-network/ba-p/7221052